เมื่อสายรัดพลาสติกมีความสำคัญกับอุตสาหกรรมแทบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิตการเกษตร หรือการขนส่งก็ตาม บวกกับปัจจุบันมีตัวเลือกให้ใช้งานกันเยอะมาก อาทิ สายรัดพลาสติกPP, สายรัดพลาสติก PET, สายรัดไฮเดน การรู้ว่าควรเลือกสายรัดของพลาสติกแบบไหนให้ตอบโจทย์กับประเภทสินค้าและการใช้มากที่สุดจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดลองมาศึกษาในเรื่องนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีไปพร้อมกันเลยดีกว่า

‍วิธีเลือกสายรัดพลาสติกให้เหมาะกับสินค้าและการใช้งาน
‍1. สายรัดพลาสติก PP
ถือเป็นประเภทสายรัดพลาสติกที่พบเห็นได้บ่อยมาก ผลิตจากวัสดุโพลีพรอพีลีน (Polypropylene: PP) จึงมีความทนทาน ยืดหยุ่นได้ดีจึงทนต่อแรงดึงและแรงกระแทกในระดับเหมาะสม มากไปกว่านั้นยังทนต่อแสงแดด ความร้อนการกัดกร่อนจากสารเคมีหลายชนิด รับน้ำหนักได้ปานกลางจึงมักนิยมใช้กับสิ่งของทั่วไป เช่น กล่องกระดาษ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ของสดต่าง ๆจำพวกผัก เนื้อสัตว์ อาหารทะเล รวมถึงสินค้าเกษตรหลายชนิดก็ใช้ได้ขณะที่ในงานขนส่งก็ถือว่าตอบโจทย์อีกด้วย

2. สายรัดพลาสติก PET
สายรัด PET ผลิตจากวัสดุโพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Poly Ethylene Terephthalate) จึงมีความแข็งแรงมาก ทนทานต่อทุกปัจจัยแวดล้อมทั้งแสงแดด ความร้อนสารเคมี ค่าความแตกหักและการยืดหยุ่นสูง จึงมีราคาสูงกว่าสายรัด PPนิยมใช้กับบรรจุภัณฑ์หรือสินค้าเฉพาะอย่างที่ต้องการความมั่นคงแข็งแกร่ง รับน้ำหนักได้เยอะ ลดความเสี่ยงต่อการเสียหายต่าง ๆ ตัวอย่างสินค้าที่มักใช้งานเช่น อุปกรณ์ก่อสร้าง อิฐ ปูน ไม้ วัสดุหลังคา ผนัง ฝ้าเพดาน รวมถึงกลุ่มขวดแก้วกระป๋อง พาเลทไม้ และสิ่งของที่มีน้ำหนักเยอะ

3. สายรัดไฮเดน
สายรัดไฮเดนผลิตจาก HDPE (High Density Polyethylene) เป็นเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงนิยมใช้งานกับเครื่องรัดสายพลาสติกแบบโยก มักมีสีดำและหนากว่าสายรัดพลาสติกPP การยืดตัวน้อยรับน้ำหนักได้ในปริมาณที่เหมาะสม ใช้งานได้กับสินค้าทั่วไปหลายประเภท

4. ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนซื้อใช้งาน
อีกวิธีหากยังไม่มั่นใจว่าสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ที่คุณจะนำสายรัดของพลาสติกไปใช้งานแบบใดจึงเหมาะสมมากที่สุดลองสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญดูก็ได้เช่นกัน อาทิ พูดคุยกับโรงงานผลิต สายรัดพลาสติกพร้อมอธิบายถึงสิ่งที่ต้องการด้วยประสบการณ์ของพวกเขาจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำดีที่สุด ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพตรงตามเป้าหมายที่คาดหวังไม่ยากเลย

จากวิธีต่างๆ ที่แนะนำมาเกี่ยวกับการเลือกสายรัดพลาสติกเพื่อใช้งานสามารถแบ่งออกได้ 2ประเด็นใหญ่นั่นคือ ประเภทบรรจุภัณฑ์หรือสินค้าและน้ำหนักของสินค้า ขณะที่เรื่องของราคาก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างดีแต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่บนความเหมาะสมในเรื่องของคุณภาพด้วยเพราะถ้าหากเน้นราคาแต่พอใช้งานแล้วปรากฏสายรัดของพลาสติกรับน้ำหนักไม่ไหวไม่เหมาะกับสินค้า ก็อาจเกิดความเสียหายกลายเป็นต้นทุนบานปลายหนักกว่าเดิมแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

บริษัท ทีเอ็นซี แพ็คกิ้ง จำกัด

เลขที่ 8/17 ซอยอนามัยงามเจริญ 41 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150